Living Estate

Living Estate รับทำ Feasibility โครงการอสังหาฯ

Living Estate

อสังหาริมทรัพย์และการตลาด

Living Estate

Real Estate Development Analysis

วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2558

5 ทำเลน่าลงทุนคอนโดมิเนียม

5 ทำเลน่าลงทุนคอนโดมิเนียม



                         อย่างที่ทราบกันอยู่แล้วในเริ่องของกฎ 3 ข้อในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คือ Location Location Location นักลงทุนต่างให้ความสนใจในการลงทุนในทำเลที่มีศักยภาพ ซึ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในการลงทุน เป็นต้นว่า ลงทุนซื้อมาหากขายก็ได้กำไร หรือลงทุนเพื่อปล่อยเช่าก็สามารถปล่อยเช่าได้ง่าย หากเราเลือกทำเลที่มีศักยภาพซึ่งก็คงหนี้ไม่พ้นทำเลแนวรถไฟฟ้า หรือทำเลของการสร้างเมืองใหม่ ดัง 5 ทำเลนี้ค่ะ


1. ทำเลบางใหญ่

ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-บางใหญ่ ส่งผลให้ที่ดินตามแนวรถไฟฟ้า ช่วง ติวานนท์ รัตนาธิเบศร์ บางใหญ่ ราคาปรับตัวสูงมากและมีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่จำนวนมาก ทำเลนี้เป็นที่น่าจับตามองเพราะจะเป็น   ทำเลอนาคตที่มีศักยภาพในการเดินทางจากต่างจังหวัดเข้าสู่ใจกลางเมือง นอกจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงแล้ว ยังเพิ่มระบบขนส่งทางถนนเชื่อมกับประเทศพม่า และยังมีการลงทุนของธุรกิจขนาดใหญ่อย่าง “เซ็นทรัล เวสต์เกต” ที่กลุ่มเซ็นทรัลจะพัฒนาให้เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เทียบเท่าเซ็นทรัลเวิลด์ ย่านราชประสงค์ และจะมีการเปิดตัวเมกะโปรเจคที่บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ร่วมกับประเทศสวีเดน เปิด “อีเกีย” สโตร์เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ และจะมีโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางใหญ่-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี จึงคาดกันว่า...บางใหญ่จะกลายเป็นฮับของพื้นที่กรุงเทพฯในโซนตะวันออกอีกด้วย


2. ทำเลรัชดา-ลาดพร้าว

นอกจากเป็นทำเลที่มีศักยภาพแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางธุรกิจของไทยแห่งใหม่ในอนาคตอีกด้วยค่ะ นอกจากเดิมที่มีสถานบันเทิงที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวยามราตรีอยู่แล้ว อีกไม่นานจะกลายเป็น CBD แห่งใหม่ เป็นที่รวมศูนย์กลางธุรกิจ อาคารสำนักงานเช่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะดึงธุรกิจอีกมากมารวมไว้ที่นี่ สำหรับคอนโดในย่านนี้เกิดขึ้นมาอย่างมากเพื่อรองรับ ทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุนชาวต่างชาติจำนวนมากไม่ว่าจะเป็น ชาวจีน เกาหลี ฮ่องกง และอีกหลายเชื้อชาติที่จะมารวมอยู่ในศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ อีกทั้งในย่านนี้ยังเป็นแหล่งทำงาน ช็อปปิ้ง สถานบันเทิง จึงยังเป็นทำเลที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับย่านสุขุมวิทตอนต้นและตอนกลาง ซึ่งปัจจุบันราคาสูงขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาทต่อตารางเมตรแล้ว เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนเริ่มขยับขยายย้ายถิ่นการทำงานมาในย่านนี้ ประกอบกับในอนาคตโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงรัชดา/ลาดพร้าว–พัฒนาการ และช่วงพัฒนาการ-สำโรง สำเร็จจะเป็นรถไฟฟ้าสายหนึ่งที่จะเป็นที่นิยมของผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์และนักลงทุนอย่างมาก


3. ทำเลย่านบางนา

โครงการเส้นทางรถไฟฟ้าใหม่ แบริ่ง-สมุทรปราการซึ่งช่วงนั้นมีคอนโด โครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ช่วงทางยกระดับไปตามแนวเกาะกลางของถนนสุขุมวิท ผ่านคลองสำโรง แยกเทพารักษ์ แยกปู่เจ้าสมิงพราย และมีแนวโน้มว่าจะเกิดคอนโดมิเนียมย่านบางปูมากขึ้น เนื่องจากเรื่องผังเมืองที่หมดอายุทำให้เกิดช่องว่างในการยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารสูงได้ถึง 10 เท่าของที่ดิน อาจเป็นมีผลให้คอนโดมิเนียมในจังหวัดสมุทรปราการเติบโตขึ้นแต่ราคาอาจจะยังไม่สูงมากอยู่ในระดับ 1.5-2 ล้านต้นๆ แต่หากจะลงทุนบริเวณนี้จริงๆ ต้องคำนวนค่าเช่าเปรียบเทียบกับเงินที่ลงทุนไปอาจได้ผลตอบแทนไม่สูงมากนัก แต่สำหรับคอนโดมือสองยังพอทำกำไรได้บ้าง ส่วนบริเวณพัฒนาการ-ศรีนครินทร์ ใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ ที่ร่างผังเมืองใหม่มีแนวโน้มจะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดง จะผลักดันให้เกิดบ้านแนวสูงในย่านนี้มากขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่น่าจับตามองมากขึ้น



4. ทำเลรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ตากสิน – บางหว้า

นับว่าคึกคักไม่แพ้สายสีม่วง เตาปูน – บางใหญ่เลยที่เดียว ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้ทำการสำรวจพบว่าคอนโดมิเนียมจากแนวรถไฟฟ้านั้นมีโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการเกิดขึ้นและขายหมดในเวลาอันรวดเร็ว เพียงระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี มีโครงการคอนโดต่างๆ ผุดขึ้นเป็นสิบโครงการ เนื่องจากส่วนต่อขยายเส้นนี้อยู่ห่างจากใจกลางธุรกิจ สาธร สีลมไม่ไกลนัก ทำให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทางเข้ามาทำงานในเมือง ตั้งแต่สถานีกรุงธนบุรี จนถึงสถานีบางหว้า เป็นบริเวณซึ่งมีศักยภาพสูงในเหมาะที่จะพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ถึงแม้ว่าสถานีวุฒากาศ และสถานีบางหว้า จะมีลักษณะเป็นชานเมืองไกลออกไปสักนิด เมื่อเทียบกับสถานีกรุงธนบุรี หรือสถานีวงเวียนใหญ่ แต่ก็ใช้เวลาเดินทางจากสถานีบางหว้าถึงสถานีสยามเพียง 20-25 นาทีเท่านั้น และในอนาคตสถานีบางหว้าจะเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีน้ำเงิน (สถานีหัวลำโพง-สถานีบางแค) จึงมีผู้ประกอบการเข้ามาพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมจำนวนมาก และได้รับความสนใจจากผู้ซื้อมากตามไปด้วย และคาดว่าในอนาคตหากมีการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สถานีหัวลำโพง-สถานีบางแค) อย่างเป็นทางการประมาณปี 2560 จะทำให้พื้นที่ย่านนี้มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต



5. ทำเลย่านรังสิต ปทุมธานี

เป็นทำเลที่น่าจับตามองของนักลงทุน เพราะเป็นประตูทางออกสู่ภาคเหนือ ภาคอีสานของประเทศไทย ทั้งยังใกล้ที่ตั้งมหาวิทยาลัย ห้างสรรพสินค้าและนิคมอุตสาหกรรมอีกด้วย ดังนั้นย่านรังสิต จึงเป็นแหล่งที่อยู่ของพนักงาน แรงงาน นักศึกษาและประชากรจำนวนมาก ซึ่งในอนาคตจะมีการปรับปรุงศูนย์การค้าฟิวเจอร์ปาร์ครังสิตให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม และยังมีการพัฒนาที่ดินของกลุ่ม CPN กว่า 600 ไร่  อีกทั้งโครงการ MEGA Rangsit ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างประเทศไทยกับสวีเดน ที่จะร่วมกันพัฒนาที่ดินกว่า 250 ไร่ ให้กลายเป็นเมืองใหม่งานนี้ต้องติดตามกันให้ดีๆค่ะ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทำเลย่านรังสิตเป็นอีกทำเลที่น่าสนใจและจะเพิ่มมูลค่าในอนาคตได้มากทีเดียว ซึ่งเอื้อกับ โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ที่มีการก่อสร้างตามแนวเส้นทางรถไฟสายเหนือ ที่มีแนวจากกลางเมืองกรุงเทพฯ สถานีบางซื่อ มุ่งหน้าออกไปสู่ย่านรังสิต ที่มีโครงการต่อขยายไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(ศูนย์รังสิต)





                จากข้อมูลที่รวบรวมมาเพื่อใช้ในการวิเคราะห์การลงทุนคอนโดในแนวรถไฟฟ้า แต่โดยส่วนตัวถ้าจะให้ฟันธงว่าเลือกแนวรถไฟฟ้าแนวไหนดีกว่ากัน  จริงๆ แล้วยุ้ยว่าการลงทุนในทำเลรถไฟฟ้านั้นเราสามารถลงทุนได้ทุกทำเลค่ะ แต่ควรเป็นทำเลที่เราสนิทคุ้นเคย เช่น ใกล้บ้าน ใกล้ที่ทำงาน เพราะจะเห็นความเคลื่อนไหวของประชากรแถบนั้นอยู่ทุกๆ วัน จะทำให้เรารู้ถึงกลุ่มเป้าหมายว่า ใครจะเป็นผู้เช่า จะปล่อยเช่าได้มั้ยจะขายต่อได้มั้ย สุดท้ายแล้วคำตอบในการเลือกทำเลในการลงทุน เราจะเป็นผู้ตัดสินเองและจะเป็นการตัดสินเต็มไปด้วยความมั่นใจเพราะเราคุ้นเคยกับถิ่นฐานนั้นเป็นอย่างดี หวังว่าข้อมูลทำเลน่าลงทุนแนวรถไฟฟ้าที่นำมาเล่าสู่กันฟังคงจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำไปประกอบการตัดสินในการลงทุนได้นะคะ


ที่มา  ธนาคารกรุงศรี

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

Casa Ville วัชรพล-เพิ่มสิน

โครงการ Casa Ville วัชรพล-เพิ่มสิน



ที่ตั้ง ติดถนนเพิ่มสิน
บริษัท Q-House
Pre-Sale   ก.พ. 58
ขนาดโครงการ 97 ไร่  
จำนวน 228 ยูนิต  
ขายไปแล้ว 10 ยูนิต
ขนาดที่ดินเริ่มต้น   38-64  ตร.วา
ราคาที่ดิน 60,000 บาท/ ตร.วา
ค่าส่วนกลาง                27 บาท/ตร.วา ชำระล่วงหน้า 2 ปี

แบบบ้าน Style Modern Contemporary

1. แบบบ้าน Moma: บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 50 ตร.วา 4  ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน  ราคา5.75 ล้านบาท

2. แบบบ้าน Agora : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 184 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 64 ตร.วา  4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ราคา 6.55 ล้านบาท

3. แบบบ้าน Whitney : บ้านแฝด 2 ชั้น  พื้นที่ใช้สอย 184 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 38-46 ตร.วา  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน  ราคา 4.39ล้าน

เงื่อนไขการชำระเงิน แบบ Luxury  จอง 500,000 บาท  , ทำสัญญา 500,000  , ดาวน์  5,000,000
แบบ Premium  จอง 500,000 บาท  , ทำสัญญา 50,000 , ดาวน์  6,600,000

Promotion   ฟรีแอร์ 3 ห้องนอน , ฟรีผ้าม่าน

การก่อสร้าง อยู่ระหว่างก่อสร้าง
วัสดุก่อสร้าง                สร้างด้วยอิฐมวลเบา , กรอบประตู-หน้าต่างเป็นอลูมิเนียมขาว กระจก                                                        เขียวตัดแสง, ไฟดาวน์ไลท์

ระบบรักษาความปลอดภัย   ทางเข้ามี CCTV , รปภ. 24 ชั่วโมง  Club House  สวน
สภาพแวดล้อม   อยู่ในแหล่งชุมชน  ด้านข้างมีโครงการทาวน์เฮ้าส์อยู่ ทำให้มีความพลุกพล่าน  

จุดเด่น   
                 ที่ตั้งโครงการติดถนนเพิ่มสิน เดินทางได้หลายเส้นทาง  , ตัวบ้านหน้ากว้างทำให้ดูใหญ่  ราคาไม่แพงมาก

จุดด้อย
1.จำนวนบ้านเยอะ ทำให้พลุกพล่าน
2.รอบโครงการไม่มีร้านอาหารต่างๆ ทำให้ต้องออกมาซื้ออาหารต่างๆบริเวณถนนวัชรพล


Concept การออกแบบ

       บ้านเดี่ยว CASA VILLE วัชรพล-เพิ่มสิน ต้นแบบของการพักอาศัยที่ดีกว่าวันนี้ ด้วยการตอบสนอง Lifestyle ใหม่ที่เปลี่ยนไป บนขนาดที่ดินเท่ากัน ที่เราไม่หยุดอยู่แค่ฟังก์ชั่นมาตรฐานที่ครบถ้วนเท่านั้น แต่ยังเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ให้อีก เพิ่มความคุ้มค่าให้คุณยิ่งกว่าใครในโซนนี้

       จาก Gate ประตูทางเข้า สไตล์ Modern Minimalist นำคุณสู่ภายในโครงการที่สวยร่มรื่น ออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง ง่ายต่อการใช้งาน ด้วย Clubhouse หรู สไตล์ Modern พร้อมสระว่ายน้ำ ฟิตเนสรูม และสวนสาธารณะอีก 2 แห่ง ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของชีวิตยุคใหม่อย่างครบครัน

        Design แบบที่ให้ Functions ใหม่ ใช้งานได้จริง ภายนอกโฉมใหม่กว่า ด้วยขนาดตัวบ้านที่ใหญ่ ดูโอ่อ่า ใช้โทนสี Earth Tone สะท้อนความเรียบหรู ทันสมัย พร้อม Functions ภายในที่มากกว่า สวยลงตัวน่าอยู่ สุดคุ้มกับบ้าน 50 ตร.วา

        4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ให้คุณมากกว่าด้วยห้องนอนชั้นล่าง ห้อง Green Room เปิดรับวิวสวยภายนอกได้ดี เพิ่มห้อง Living Room สำหรับชั้นบน ปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือห้องพระ  ปลอดภัยอีกขั้นกับระบบ Magnetic สัญญาณกันขโมยชั้นล่าง  ให้ความเป็นส่วนตัว ไม่แออัด เพียง 228 ครอบครัวเท่านั้น

Facility

            ชีวิตสะดวกสบายยิ่งกว่า พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันภายในบ้านเดี่ยว 

1.เดินทางคล่องตัว ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทางลงสุขาภิบาล5 เพียง 5 กม.  
2.Clubhouse เรียบหรู สไตล์ Minimalist พร้อมสระว่ายน้ำและฟิตเนสรูม 
2.พักผ่อนอย่างมีสไตล์ ด้วยสวนสาธารณะ 2 แห่ง 
3.ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. เข้า-ออกด้วยระบบ Key Card สำหรับลูกบ้าน มั่นใจยิ่งขึ้น ติดกล้อง CCTV บริเวณทางเข้า-ออก หน้าโครงการ 
4.ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง ทั้งเซ็นทรัล รามอินทรา ,แฟชั่น ไอแลนด์ ,เพลินนารี่ มอลล์ ,บิ๊กซี ,ตลาดวงศกร ,ตลาดออเงิน ,ตลาดสะพานใหม่ รพ.ภูมิพล ,รพ.สายไหม ,รพ.เซ็นทรับ เยนเนอรัล ,รพ.สินแพทย์ สนามบินดอนเมือง ,พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ,สนามกีฬาธูปเตมีย์ ,โรงเรียนสารสาสน์

แผนที่และการเดินทาง


สถานที่ใกล้เคียง

The Finest Location  ทำเลศักยภาพถนนตัดใหม่ พหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภช ที่เสร็จแล้ว ช่วยให้คุณคล่องตัวในการเดินทางสู่จุดมุ่งหมายได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรายล้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิเช่น

ห้างสรรพสินค้า : เซ็นทรัล รามอินทรา ,แฟชั่น ไอแลนด์ ,เพลินนารี่ มอลล์ ,บิ๊กซี

โรงพยาบาลคุณภาพ : รพ.ภูมิพล ,รพ.สายไหม ,รพ.เซ็นทรัล เยนเนอรัล ,รพ.สินแพทย์

สถานที่สำคัญต่างๆ : สนามบินดอนเมือง ,พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ ,สนามกีฬาธูปเตมีย์ ,รร.สารสาสน์ 

แบบบ้านในโครงการ


1. แบบบ้าน Moma:  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 167 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 50 ตร.วา 4  ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน  ราคา5.75 ล้านบาท

จุดเด่นของบ้านแบบนี้คือ เป็นบ้านหน้ากว้าง มีห้องนอนด้านล่างสำหรับผู้สูงอายุ สามารถอยู่ได้สบายเลยครับ และมีห้องโถงด้านบน สำหรับทำกิจกรรมของสมาชิกในครอบครัว







2. แบบบ้าน Agora :  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 184 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 64 ตร.วา  4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ราคา 6.55 ล้านบาท





3. แบบบ้าน Whitney :  บ้านแฝด 2 ชั้น  พื้นที่ใช้สอย 184 ตร.ม. ขนาดที่ดิน 38-46 ตร.วา  3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน  ราคา 4.39ล้าน







ผังโครงการ



Gallery

    ซุ้มทางเข้าโครงการ




โครงการนี้มี 2 โครงการอยู่ติดกันครับ Casa City เป็นรูปแบบทาวน์โฮมส์ 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ส่วน Casa Ville เป็นบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด 2 ชั้นครับ โดยจะมีทางเข้าโครงการเเยกจากกัน 

    Club House 








สรุป

     ทำเลโครงการตั้งอยู่ในย่านชุมชน การเดินทางสามารถใช้ถนนได้หลายเส้นทาง สามารถเข้าเมืองได้ทั้งถนนสุขาภิบาล 5 และถนนพหลโยธิน ก็ได้ นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนวัชรพล ระยะทางประมาณ 4 กม. ทำให้การเดินทางมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น 

     พื้นที่โดยรอบโครงการมีชุมชนบ้านคน และมีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย  รวมทั้งร้านสะดวกซื้อต่างๆ แต่จะไม่เยอะมาก  พวกร้านอาหารจะไม่ได้หรูหรา ติดแอร์เหมือนในเมืองครับ ส่วน ตลาดสดใกล้ๆก็จะอยู่เส้นสุขาภิบาล 5 มีตลาดออเงิน และตลาดวงศกร หรืออยากจะไปฝั่งพหลโยธินก็มีตลาดยิ่งเจริญ มี Big C Market เป็น Community Mall ระยะจากโครงการประมาณ 3.5 กม. ส่วนถ้าจะไปห้างใหญ่ๆก็จะเกาะตามเส้นพหลโยธิน รามอินทรา และวัชรพลมี Big C, Lotus, และเซ็นทรัล แต่ก็เป็นระยะตั้งแต่ 6 กม. ขึ้นไปครับ   ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ผ่านในพื้นที่ใกล้เคียงด้วยครับ ถือว่าทำเลนี้เป็นทำเลที่กำลังเจริญเลยทีเดียวครับ











วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2558

16 ทำเลน่าลงทุนอสังหาฯ ปี 58

16 ทำเลน่าลงทุนอสังหาฯ ปี 58


         เกียรตินาคินชี้ปี 58 ยังคงเป็นจังหวะดีของการลงทุนอสังหาฯ เผยราคาที่ดินพุ่งเฉลี่ยปีละ 9% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมเปิดโผ 16 จังหวัดดาวรุ่งน่าลงทุน กรุงเทพฯ-ปริมณฑล, หัวเมืองใหญ่, และจังหวัดชายแดน

4 ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์

        1.การขยายตัวของเมืองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
        2.นโยบายของรัฐ โดยเฉพาะโครงการลงทุนที่สนับสนุนการใช้ที่ดิน/ เพิ่มศักยภาพที่ดิน เช่น การกำหนดเขตเศรษฐกิจพิเศษ โครงการรถไฟฟ้าต่างๆ
       3.ที่ดินมีจำกัด ทำให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น
       4.การกำหนดราคาที่ดินใหม่ ในปี 2016-2019 ประเมินว่า ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น 10-15% โดยเฉพาะในเขต CBD อย่างสีลมคาดการว่าจะปรับสูงขึ้นจากเดิม 8.5 แสน/ตร.วา เป็น 9 แสน- 1 ล้าน บาท/ตร.วา  โดยที่ดินในแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินก็จะเพิ่มขึ้น 10-20%



         จากการวิเคราะห์ของธนาคารเกียรตินาคินพบว่าทำเลที่น่าจับตาและมีโอกาสสำหรับการลงทุนในอสังหาฯ ในประเทศไทยมีอยู่ 16 จังหวัด โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก “กรุงเทพฯ และปริมณฑล” มี 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม และสมุทรปราการ ซึ่งได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเขตเมืองและการก่อสร้างรถไฟฟ้าในหลายเส้นทาง



ทำเลที่น่าจับตาและมีโอกาสสำหรับการลงทุนในอสังหาฯ ในประเทศไทยมีอยู่ 16 จังหวัด สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1.“กรุงเทพฯ และปริมณฑล” มี 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของเขตเมืองและการก่อสร้างรถไฟฟ้าในหลายเส้นทาง

2.“จังหวัดหัวเมืองใหญ่” มี 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต พิษณุโลก ขอนแก่น และชลบุรีซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของเขตเมือง อันเกิดจากการค้าและการลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หรืออีกส่วนหนึ่งคือเป็นจังหวัดสำคัญที่เชื่อมเส้นทางคมนาคมขนส่งระหว่างไทยกับประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง

3. “จังหวัดหน้าด่านชายแดน” มี 6 จังหวัด ได้แก่ สงขลา เชียงราย ตาก มุกดาหาร หนองคาย และกาญจนบุรี ซึ่งได้รับประโยชน์จากกิจกรรมการค้าและการลงทุนตามแนวชายแดนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อยู่บนเส้นทาง GMS  ในขณะที่ภาครัฐเองก็ให้การสนับสนุนให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และบางจังหวัดยังได้รับประโยชน์จากการเป็นเมืองท่องเที่ยว

“จากปัจจัยข้างต้นจะเห็นได้ว่าเวลานี้เป็นจังหวะแห่งการลงทุน ซึ่งการลงทุนในอสังหาฯ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะที่ดิน ที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ หรือ แม้แต่คอนโดมิเนียม เรามองว่าอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับราคาวัสดุก่อสร้างไม่ปรับราคาขึ้น ทำให้การลงทุนด้านอสังหามีความน่าสนใจมากขึ้น

         อย่างไรก็ตามผลตอบแทนการลงทุนในที่ดินยังสูงกว่าการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ดูจากดัชนีราคาบ้านเดี่ยวเพิ่ม 5.1% ดัชนีคอนโดมิเนียมสูงขึ้น 6.4% และดัชนีทาวน์เฮาส์โต 7.3% ขณะที่ที่ดิน เพิ่ม 9%

ที่มา  ธนาคารเกียรตินาคิน